วันจันทร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2559

thumbnail

MLM คือ อะไร

                 สมมุติ คุณเป็นลูกจ้างของร้านขายเสื่อยืดร้านหนึ่ง เขาจ้าคุณเดือนล่ะ 15000 บาท และต้องขายของภายในร้านให้ได้ 150000 บาทต่อเดือน ส่วนรายจ่ายที่เขาต้องจ่าย ค่าเช่าร้านอีก 15000 บาท ค่าขนส่ง ค่าภาษี ค่าน้ำค่าไฟ ฯลฯ ต้นทุนอีกเสื้อตัวละ 100 บาท คุณคิดว่า เขาจะขายเสื้อตัวนั้นตัวล่ะเท่า
ไหร่? ตัวล่ะ 200 หรือ ตัวล่ะ 300 บาท หรือตัวล่ะ 500 บาท คุณก็คงไม่สนใจมีหน้าที่ขายก็ขายไป และถ้าวันหนึ่ง นายจ้างคุณเขารับลูกจ้างเพิ่มมาช่วยคุณขาย เพื่อไม่ให้คุณเหนื่อยเกิน คุณกับลูกจ้าคนใหม่ก็ทำงานน้อยลง คุณก็อาจจะได้รับเงินเดือนเหลือเงินเดือน แค่ 12000 บาทเพื่อจะได้มีเงินไปจ่ายให้ลูกจ้างอีกคนที่เพิ่มขึ้นมา แต่ คุณก็ไม่ต้องนั่งขายทั้งวัน เพราะมีคนช่วยขายแล้ว ยอดที่คุณจะขายต่อเดือนก็ลดลง อาจจะเหลือแค่ 120000 บาท ต่อเดือน ส่วนลูกจ้างอีกคน ก็มาช่วยขายก็ต้องทำยอดขายประมาณคุณก็อยู่กันได้ และถ้าเขารับมาสามคนล่ะ คุณ ก็ต้องเฉลี่ยงานกันไป แล้ว คุณ ก็อาจจะ ได้รับเงินเดือนเพียงแค่ 9000 บาท ซึ่งก็แน่นอน ยอดขายต่อเดือนที่คุณต้องขาย ก็ลดลงเป็นเงาตามตัว คุณไม่ต้องมานั่งขายเองทั้งหมด มีคนช่วยขายเสื้อให้คุณ และถ้า เจ้าของ รับลูกจ้างมาร้อยคนล่ะ คุณก็ก็จะเหลือเงินเดือนแค่เดือนล่ะ 100 บาท แต่คุณก็ขายเสื้อ แค่ สองตัว แล้วคุณก็กลับบ้านนอนได้เลย ก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณทำงาน MLM คุณขายสบู่เดือนละ 2 ก้อน คุณก็จะได้ค่าจ้างแค่ 100 บาท เหมือนกัน แต่ไม่มีใครว่าอะไร ถ้าเกิดเจ้าของร้านเสื้อจะทำแบบนี้

                คุณคิดว่าถูกไหม ทำงานน้อย ขายของน้อยก็ได้เงินน้อยเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งถ้าคุณอยากทำ
MLM ให้ได้เงินเยอะ คุณก็ต้องขายสินค้าให้เยอะ ขายสบู่ให้ได้ 1000 ก้อนเพื่อให้ได้เงินเดือน 15000 บาท และบริษัทที่คุณทำอยู่นั้นดำรงอยู่ได้ แต่ถ้าคุณหาคนมาช่วยขาย คุณก็ไม่ต้องขายสบู่ 15000 บริษัทมียอดขายต่อเดือนเกิน 150000 เขาก็อยู่ได้ คุณทำงานน้อนลง เพื่อนคุณมาช่วยคุณขาย คุณก็ต้องแบ่งเงินให้เขาด้วย เข้าใจตรงกันนะ

                แล้วมันผิดตรงไหนล่ะ ทำงานน้อย เงินเดือนก็น้อยตาม แต่บริษัท MLM มักจะขายฝันว่า คุณจะ มีบ้าน มีรถ ไปเที่ยวต่างประเทศอะไรทำนอง ซึ่งผมไม่รู้ว่า บริษัท MLM นั้นจะชูนโยบายนี้ขึ้นมาทำไม คุณทำงานบริษัททั่วไปเป็นสาวโรงงานเป็นกรรมกรก่อสร้าง ถ้าคุณมีเงินเดือน 50000 – 100000 บาทต่อเดือน คุณก็ขวนขวายซื้อรถซื้อบ้านเองนั่นล่ะไม่ต้องให้ใครมาบอกหรอก  
        
                ผมเข้าใจว่า ผู้ต่อต้าน คิดว่าทำงานประจำดีกว่า สิ้นเดือนแน่นอน 15000 แน่นอน แต่ถ้าคุณทำงานให้เขาไม่ได้ละ ขายสินค้าให้เขาไม่ได้ตามเป้า เขาจะมีเงินเดือนมาให้คุณหรือ? ซึ่งคุณจะเถียงว่า ดิฉันทำงานเป็นพนักงานต้อนรับในโรงแรมค่ะแต่งตัวสวยไปวันๆ ก็จริงแต่ก็ต้องมีคนที่ต้องทำงานการตลาดเพื่อให้มีคนมาพักที่โรงแรมที่คุณทำงานอยู่เพื่อให้มีเงินมาหล่อเลี้ยงโรงแรมที่คุณทำงานอยู่ หรือคุณจะทำงานด้านบันชีที่สำนักงานทนายความ ซึ่งแน่นอนคุณไม่ต้องทำยอดขายเข้าบริษัท แต่ก็มีคนกลุ่มหนึ่งหาเงินเข้าบริษัท นั่นก็คือ เหล่าพี่ๆทนายความที่ออกไปว่าความ ถ้าพวกเขาไม่มีงาน บริษัทจะเอาอะไรมาจ่ายเงินเดือนให้คุณ


                งานทุกงาน บริษัททุกบริษัทต้องมีรายรับเพื่อนำเงินมาจ่ายพวกคุณ งาน MLM ก็ต้องมีรายรับเข้าบริษัท ซึ่งคุณเป็นผู้หามาได้ หามามากได้มาก จบป่ะ...

Subscribe by Email

Follow Updates Articles from This Blog via Email

No Comments

About

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ขับเคลื่อนโดย Blogger.

ผู้ติดตาม