
เปิดร้านข้าวแกง เหนื่อยไหม ที่ต้องตื่น ตีสี่ ออกจาบ้านไปตลาดเพื่อซื้อผักซื้อเนื้อมาทำกับข้าว ขายได้ขายดีมีกำไรก็หายเหนื่อยแต่ พรุ่งนี้ก็ต้องตื่นตีสี่ออกไปซื้อผักซื้อเนื้อมาอีกเป็นแบบนี้ทุกวัน แต่ถ้าขายไม่ดีก็จบปิดร้านหายเหนื่อยเลิกรากันไป หรือเปิดร้านขาย เสื้อผ้า คนอื่นเขาก็ทำกันได้ดิบได้ดีร่ำรวยกันยกใหญ่ แต่คนที่ทำไม่สำเร็จก็ขาดทุนย่อยยับกันไปกับเสื้อผ้าที่ซื้อมากองอยู่ที่บ้าน เพราะขายไม่ออก พร้อมกับดอกเบี้ยเงินกู้ที่นำไปตั้งบริษัททำธุรกิจส่วนตัว
แต่... ไม่มีใครออกมาด่างานและธุรกิจแบบนี้ ซึ่งผมก็เดาว่า เพราะคุณเข้าไปเสี่ยงเองโดยไม่มีใครมาชวน ยกตัวอย่างเช่น ขายสี่ บะหมี่เกี้ยว เจ้าของขายสี่ก็เปิดโรงงานผลิตบะหมี่ครบวงจรอยู่ใครอยากเปิดร้านก็นำเงินไปซื้อแฟรนไชส์และก็ได้ข้าวของมาลงทุนที่ ร้านของคุณเรียกว่าครบทุกอย่างในการเปิดร้านขายบะหมี่ ถามว่าเหนื่อยไหม ต้องจัดร้าน ลวกเส้น หั่นหมู ล้างจาน เก็บร้านในทุก วัน ซึ่งผมเองก็ไม่เคยทราบข่าวว่า เจ้าของบริษัทฯ ส่งคนมาหา ชาวบ้านโดยทั่วไปมาขายบะหมี่เลยสักคน มี่เพียงแต่ออกทีวี สิ่งพิมพ์ ว่าถ้าอยากเปิดร้านขายบะหมี่ก็ติดต่อได้ที่บริษัทฯ ซึ่งก็มีมากมามายหลายคนไปติดต่อ สำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง แต่...ไม่มีดราม่า ออกสื่อ เพราะคนที่ทำไม่สำเร็จเพราะตัวคนทำนั้นเอง ก็เลยต้องก้มหน้า วางหม้อก๋วยเตี๋ยวไว้ในห้องครัวที่บ้าน พร้อมโต๊ะเก้าอี้ จานชามอีกหลายชุด
สิ่งที่ mlm ถูกด่าและมีดราม่ากันมายมายอยู่อย่างทุกวันนี้ก็เพราะมีข้อแตกต่างกับอาชีพอื่นๆโดยทั่วไปที่เห็นง่ายๆดังนี้คือ การที่มีคนมาชวนไปทำงาน mlm ซึ่งไอ้คนชวนนี่ล่ะ คือคนผิดที่ทำให้มีคนต้องเสียเงิน ลงทุนขายบะหมี่ก็เสียเงินแต่ไม่มีใครมา ขวนก็เลยไม่รู้จะโทษใครเพราะร้านที่ขายบะหมี่ขายข้างแกงทำสำเร็จก็มีอยู่ทุกหัวระแหงทุกตรอกซอกซอยในทุกจังหวัดทุกอำเภอทุก หมู่บ้าน เลยมีโอกาสปัดความล้มเหลวให้คนชวนทำ mlm ไปเลยพร้อมกับพ่วงข้อหา ให้ธุรกิจ mlm ทั้งหมดไปด้วยว่าผิด โดยที่คน นั้นไม่ต้องรับผิดและเสียใจอะไรหรือท้อแท้กับการทำอะไรไม่สำเร็จ ซึ่งก็คือนิสัยของมนุษย์ส่วนใหญ่โดยทั่วไป
mlm ขายฝันว่าเป็นงานง่ายๆ เดินไปเดินมา คุยไปคุยมา กับญาติกับเพื่อนหรือคนรู้จัก ง่ายๆ เบาๆ ไม่ต้องตื่นตีสี่ไปซื้อผักซื้อเนื้อที่ตลาดกว่าจะเก็บร้านก็ไม่รู้กี่โมงกี่ทุ่มต้องเหนื่อย ต้องต้อนรับลูกค้าไม่รู้ว่ากี่สิบกี่ร้อยคนต่อวันเพื่อความร่ำรวยเพราะยิ่งอยากรวยก็ ต้องมีลูกค้ามาก และยิ่งมีลูกค้ามากก็ยิ่งเหนื่อย แต่งาน mlm ทำได้ขอให้มีลูกค้าใหม่แค่วันละคนก็ชิวๆแล้วล่ะ เดือนหนึ่งก็ 30 คน ปีหนึ่งก็ 365 คน รวย... การคุยกับลูกค้าข้าวแกง 100 คนต่อวัน กับลูกค้า 1 คนต่อวันต่างกันเยอะ
สรุปว่า ควรทำ mlm ดีไหม ผมก็ต้องขอตอบว่า ธุรกิจทุกอย่างมีความเสี่ย โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจในการลงทุนของตัวคุณเอง
Subscribe by Email
Follow Updates Articles from This Blog via Email
No Comments